ลดรูขุมขน ปิดท้ายการสครับด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นทุกครั้งหลังการสครับกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกจากผิว ผิวก็ดูกระจ่างใสและเรียบเนียนมากขึ้น แต่ทั้งนี้เพื่อให้ผิวทั้งเนียนทั้งนุ่มละมุนต้องไม่ลืมที่จะบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ทุกครั้ง ซึ่งผิวหลังการสครับที่ไร้เซลล์ผิวที่ตายแล้วทับถมอยู่ด้านบน ก็สามารถซึมซับสารบำรุงและความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ลดรูขุมขน
ทำให้ผิวเนียนนุ่ม สีผิวสม่ำเสมอ ทั้งยังช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย ส่วนผู้ที่มั่นใจว่าผิวของตัวเองแข็งแรงดีและเว้นขั้นตอนการทาครีมบำรุงหลังการสครับนั้น อาจต้องประสบปัญหาผิวแห้งและริ้วรอยเอาได้ง่าย ๆ
การสครับผิวหน้าเป็นการช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งทับถมกันอยู่บริเวณผิวหนังชั้นบนสุดหรือชั้นหนังกำพร้าให้หลุดลอกออกไป ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส และกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบริเวณใบหน้า.
ผิวหนังประกอบด้วย ชั้นหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้ผิวหนังกำพร้า : เป็นชั้นผิวหนังที่อยู่บนสุด ประกอบไปด้วยเซลล์ ซึ่งเซลล์ที่เกิดใหม่นั้นจะถูกสร้างขึ้นชั้นล่างสุดติดกับหนังแท้ และจะเจริญเติบโตจนเคลื่อนมาอยู่ชั้นบนสุด ส่วนที่หลุดลอกออกไปจะเรียกว่า “ขี้ไคล”
หนังแท้ : เป็นชั้นผิวหนังที่อยู่ถัดจากผิวหนังชั้นหนังกำพร้า แต่มีความหนากว่าจะประกอบด้วยโปรตีนหลัก 2 ชนิด คือ เนื้อเยื่อ คอลลาเจน (collagen) และ เนื้อเยื่อ อีลาสติค (elastic)
ข้อดีของการสครับผิวเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วหรือเสื่อมสภาพ หรือหมดอายุแล้วที่ยังตกค้างบนชั้นผิวหนังกำพร้า โดยปกติแล้วผิวหนังจะมีการหลุดลอกของเซลล์ผิวที่ตายอยู่แล้วตามธรรมชาติ โดยใช้เวลาประมาณ 14 วัน ถึงจะมีการผลัดเซลล์ผิว สำหรับบางคนอาจจะใช้เวลานานกว่านี้ในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งส่งผลให้ผิวหน้าหยาบกร้าน ไม่กระจ่างใส เพราะมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วแต่ไม่หลุดออกไปได้บังผิวชั้นบนไว้ ทำให้เกิดปัญหาความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และริ้วรอยบนผิวหน้า
ปัญหาในการสครับผิวการทำร้ายผิวชั้นบนอย่างไม่ตั้งใจ เป็นผลมาจากการใช้สครับที่มีขนาดใหญ่ และถูหน้าด้วยวิธีที่รุนแรง เม็ดสครับที่มีความเป็นเหลี่ยมคม บาดและทำลายผิวปกติที่ยังไม่ตายหรือหมดอายุลงไปด้วย ทำให้ผิวหน้าระคายเคือง แสบ ลอก แดง และทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาอีกมากมาย ลดรูขุมขน.